การนำไปใช้
การบำบัดรักษาด้วยสเต็มเซลล์แบ่งออกได้เป็นหลายชนิด ในปัจจุบันสเต็มเซลล์เริ่มเป็นที่ยอมรับว่าสามารถรักษาโรคได้หลายชนิด ในสหรัฐอเมริกาการบำบัดรักษาด้วยสเต็มเซลล์มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคเลือด โรคมะเร็งบางชนิดและโรคอื่นๆมานานกว่า 10 ปี ทั้งนี้ยังมีการนำสเต็มเซลล์มาใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายประเทศทั่วโลก การบำบัดรักษาด้วยสเต็มเซลล์เป็นที่ยอมรับว่าในระยะต่อไปจะสามารถนำมาใช้รักษาโรคเกี่ยวกับสมองได้ อาทิเช่น อัมพฤกษ์, อัมพาต, โรคพาร์กินสัน, ภาวะสมองเสื่อมก่อนวัยอันควร, การได้รับบาดเจ็บของไขสันหลัง, โรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง, โรค MS, โรค ALS, ข้อเสื่อม, โรคที่มีผลสืบเนื่องมาจากความเสื่อมของอวัยวะ, โรคมะเร็งบางชนิด และโรคหัวใจ เป็นต้น
นักวิจัยได้ค้นพบว่า เยื่อในของฟันน้ำนมของเด็กบางซี่ ประกอบด้วยเซลล์ชนิด Chondrocyte, Osteoblast, Adipocyte และสเต็มเซลล์ชนิด Mesenchymal เซลล์ชนิดต่างๆ ทั้งหมดเหล่านี้มีศักยภาพอย่างสูงในการรักษาโรคอื่นๆที่มิได้ระบุไว้ในรายการข้างต้นศักยภาพของการนำเอาสเต็มเซลล์จากฟันน้ำนมมาใช้ประโยชน์ในการรักษาจะรวมถึงโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติทางสมอง เช่น อัลไซเมอร์, พาร์กินสัน และ ALS โรคหัวใจเรื้อรัง ตัวอย่างเช่น ภาวะหัวใจล้มเหลว โรคหัวใจขาดเลือดเรื้อรังโรคที่เกี่ยวกับกระดูกและฟันรวมทั้งการนำมาใช้ในการปลูกถ่ายฟันและกระดูกศักยภาพที่มีความสำคัญสูงสุดประการหนึ่ง คือ การนำเอาสเต็มเซลล์ชนิดนี้มาใช้ในการรักษาภาวะอัมพาตที่มีผลสืบเนื่องมาจากไขสันหลังได้รับบาดเจ็บ ซึ่งได้มีการศึกษาวิจัยถึงประสิทธิภาพจากการรักษาด้วยสเต็มเซลล์ชนิด Mesenchymal จากแหล่งอื่นๆมาแล้วความพยายามในการนำเอาสเต็มเซลล์มารักษาโรคเหล่านี้กำลังมีการดำเนินการโดยนักวิจัยที่มีความสามารถสูงในสถาบันการแพทย์ที่ดีที่สุดหลายแห่งทั่วโลกและเป็นที่ยอมรับว่าการรักษาโรคเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในอนาคตข้างหน้า