รากเทียมทั้งปาก
การทำรากเทียมทั้งปากมีวิธีในการทำหลากหลายวิธี ดังนี้
1) ใส่รากเทียมยึดฟันปลอมถอดได้ Implant support overdenture
เป็นการใช้รากเทียมมารองรับฟันปลอมทั้งปากเพื่อเพิ่มการยึดหยุ่น ไม่ให้ฟันปลอมกดทับสันเหงือก คนไข้สามารถถอดออกได้ด้วยตัวเอง ระยะเวลาในการรักษาอย่างน้อย 3-4 เดือน ระยะแรกสำหรับการปลูกรากเทียม จากนั้นต้องรอประมาณ 3-4 เดือนเพื่อให้รากเทียมติดกับกระดูก จึงสามารถเข้าสู่ระยะที่สองเพื่อทำฟันปลอมบนรากเทียม ระยะเวลาในการทำงานแต่ละระยะอยู่ที่ประมาณ 1-2 สัปดาห์
2) ใส่รากเทียมยึดฟันปลอมติดแน่น Implant support hybrid or all on 4
เป็นการใช้รากเทียมสีซี่มายึดชิ้นฟันปลอมแบบติดแน่น โดยที่ชิ้นฟันปลอมนี้จะมีขนาดเล็กกว่าแบบที่หนึ่ง
2.1) แบบ basic สามารถทำได้เสร็จในเวลาประมาณ 7 วันแต่มีความจำเป็นที่ต้องตรวจเช็คเป็นระยะหลังจากนั้น
2.2) แบบ Premium ระยะเวลาในการรักษาแบ่งเป็น 2 ช่วง
- ช่วงแรกเป็นการฝังรากเทียมและได้ฟันชั่วคราวติดแน่นบนรากเทียม
- ช่วงที่สองเป็นการทำโครง Titanium บนฟันติดแน่นถาวรบนรากเทียม
ระยะเวลาในการักษาระหว่างช่วงแรกและช่วงที่ 2 อยู่ที่ 6 เดือน
3) รากเทียมยึดสะพานฟันติดแน่นบนรากเทียม Implant support fixed bridge
ส่วนงานรากเทียมรองรับสะพานฟันนั้น ต้องใช้การปลูกรากเทียมหลายตัวเพื่อ รับสะพานฟันแยกเป็นส่วนๆ ความสำคัญของงานอยู่ที่ความแม่นยำของตำแหน่งรากเทียมที่ปักลงไป อาจารย์ทันตแพทย์ที่เป็นคนปักรากเทียมมีความเชี่ยวชาญและทักษะที่แม่นยำมาก ปักได้ตำแหน่งรากเทียมที่ถูกต้อง ทำให้ตัวฟันด้านบนอยู่ในลักษณะถูกต้องตามตำแหน่งซี่ฟันธรรมชาติ
ระยะเวลาในการรักษาแบ่งเป็น 2 กรณีขึ้นกับสภาพกระดูกคนไข้
- กรณีที่1 คนไข้มีกระดูกบริเวณฟันหลังดี ระยะเวลาในการรักษาอย่างน้อย 3-4 เดือน เหมือนกับข้อ 1)
ระยะแรกสำหรับการปลูกรากเทียม จากนั้นต้องรอประมาณ 3-4 เดือนเพื่อให้รากเทียมติดกับกระดูก จึงสามารถเข้าสู่ระยะที่สองเพื่อทำสะพานฟันติดแน่นบนรากเทียม ระยะเวลาในการทำงานแต่ละระยะอยู่ที่ประมาณ 1-2สัปดาห์
- กรณีที่ 2 คนไข้มีกระดูกบริเวณฟันหลังไม่เพียงพอต่อการฝังรากเทียม
ระยะเวลาในการักษาแบ่งเป็น 3 phases
Phase 1 : ปลูกกระดูกบริเวณฟันหลัง
Phase 2 : ฝังรากเทียม
Phase 3 : ทำสะพานฟันบนรากเทียม
แต่ละ phase ใช้เวลาในการรักษาประมาณ 1-2 สัปดาห์
phase 1 ห่างจาก phase 2 ประมาณ 6 เดือน
phase 2 ห่างจาก phase 3 ประมาณ 3-4 เดือน
ตัวอย่างที่รูปที่3 และ 4
แต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป งานรากเทียมทั้งปากเป็นงานที่มีรายละเอียดมาก มีความจำเพาะกับแต่ละบุคคลแตกต่างกันไป ทั้งในแง่ของการใช้งาน สภาพกระดูก ความสวยงาม ถ้าคนไข้เข้ามาทำการตรวจ ถ่ายเอ็กซเรย์ และปรึกษากับทางทันตแพทย์ จะได้ข้อมูลมี่มากขึ้นรวมทั้งได้ดูตัวอย่างฟันจริงๆ ซึ่งดีกว่าการดูจากรูปภาพ